2552/02/27

คน กรรม ความสัมพันธ์


"ถ้าฅนเรามีความคิดน่าเกลียด มันก็จะแสดงออกมาทางใบหน้า และเมื่อฅนเราคิดไม่ดีทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกปี หน้าตาก็จะยิ่งน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งสุดแสนน่าเกลียด ถึงขนาดที่คุณแทบจะทนดูไม่ได้ทีเดียว"

ฅนซื่อบื้อ : Roald Dahl
แปลจากภาษาอังกฤษ โดย สาลินี คำฉันท์







สังคม บรรจุไปด้วย คนมากมาย เมื่อมีหลายคนก็หมายความว่าเราอยู่ร่วมกันด้วยการมีความสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะทั้งในหน้าที่ หรือ ไม่ใช่หน้าที่ก็ตาม และยิ่งโลกของเราเจริญมากขึ้นเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของคนก็จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น แล้วยิ่งมันมีตัวแปรทางด้าน วัตถุ ราคา มาทดแทนคุณค่า ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์มันซับซ้อย ชวนให้สับสนเข้าไปอีก ยิ่งโตขึ้น ยิ่งทำให้ยิ่งนึกถึงเวลาที่เป็นเด็ก

" ผู้ใหญ่ มักอยากจะกลับไปเป็นเด็ก " คงเพราะว่า อยากหลบหนีจากความวุ่นวายของชีวิต
" เด็ก อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่" คงเพราะอยากจะทำอะไรได้หลายๆ อยากอย่างที่เห็นคนตัวโตๆ เขาทำกัน

ความฝันในวัยเด็กของเรา จำไม่ได้แล้ว คิดไว้หลายอย่าง สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ก็คงไม่รู้ตัวเท่าไหร่หรอก แต่รู้สึกจะจำได้ว่า ตอนอยู่ ป 1 ได้ " มาร์คจุดเวลาเอาไว้ในความทรงจำ" ฮ่าๆ เคยนึกเล่นๆ ตอนที่เด็กๆ เราอยากรู้ว่า อนาคตเราจะเป็นยังไง อยากหลับตาแล้ว ลืมขึ้นมาเห็นตัวเองในอีก 10 ปี ข้างหน้า อยากจะบอกว่า " เราทำได้นะ " จำได้ชัดว่า ยืนอยู่หน้าบ้าน กำลังยืนดููุุดขวดยาคูลอยู่ แล้วก็ ตัง้ใจว่าอยากรู้ว่า อนาคตของเราจะเป็นยังไง ก็หลับตาตั้งใจว่าจะจดจำ ณ เวลานี้ ตรงจุดนี้ ไว้ตลอดชีวิต แล้วพอลืมตา ก็จะได้เห็นอนาคตของเรา จนถึงทุกวันนี้ สิบกว่าปีแล้ว ยังจำแม่นอยู่เลย พอเวลาผ่านไป นึกถึงวันนั้นขึ้นมา ก็เหมือนกับว่า เราเห็นอนาคตของตัวเองแล้วไง เพียงแต่เวลาของโลกภายนอกมันเปลี่ยนไปแล้ว แ่ต่เวลาในตัวของเรา ในชีวิตของทุกคน มันสามารถย้อนกลับเองได้นะ นี่ละคือการมองเห็นอนาคตในตัวเราเอง ฮ่าๆๆ แต่ ที่เคยอ่านหนังสือธรรมมะ เขาว่าเวลามันซับซ้อนมาก และจริงๆ แล้วพระพุืืทธองคก็หลุดจาก เวลา ไปแล้ว แต่ว่า ปัญนี้ คิดโดยใช่ตรรกะ ไม่ได้ ต้องใช้ จิต พิสูจน์เิอง เขาเรียกว่าเป็น 1 ใน 4 อย่างที่ไม่ควรคิดให้เสียเวลา ทีเหลือ อีก 3 จำไม่ได้ ฮ่าๆ

พักนี้รู้ึสึกว่า ทำไมคนเรามักจะระแวงกับความสัมพันธ์รอบตัวนะ มันอาจจะเกิดจากแรงกดภายนอกที่บีบให้แต่ละคนต้องสร้างกรอบ สร้างสเปซ ขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากความสัมพันธ์ มันก็ไม่ผิดนะ เพราะทุกคนมีสิทธฺ จะปกป้องตัวเองใช่มั้ย แต่สงสัยว่าแล้วตลอดชีวิต จะอยู่กับสเปซที่ตัวเองสร้างขึ้นอย่างนั้น มันจะไหวเหรอ เราว่ามันจะยิ่งทำให้ยิ่ง อ่อนแอ รึเปล่า เหมือนวัคซีนนะ อย่้างแข็งแรง ต้านโรคได้ ก็ยิ่้งต้อง ฉีด เชื้อโรคเข้าไป แล้วร่างกายมันก็จะได้ สร้างภูมิคุ้มกันได้ไง อย่างเช่น

ถ้ากลัวเหงา ก็ต้อง หัด อยู่คนเดียว
ถ้ากลัวจะไม่มีคนรัก ก็ต้องรักคนอื่นๆมากๆ
ถ้ากลัวความรัก ก็ ต้องหัด อกหักบ่อยๆ
ฮ่าๆ ๆ แต่อย่างว่าแหละ คน มันจะ เข้มแข็งได้เท่าไหร่เชียว อยากมีแว่นตาวิเศษเนอะ ใช้มองคนจริงใจไม่จริงใจ มองผ่านแว่นรู้ปุป คนนี้เป็นไง มาร้ายมาดี จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวคบกันให้เสียเวลา อยากให้ชีวิตเจอแต่คนดีดี ต้องทำยังไงหนอ เหย ย ย


ชีิวิตมีเรืองราวเยอะแยะมากมายจังเลย เริ่มจะเข้าใจแล้วละ ที่พระท่านว่า คนเราเกิดมาใช้กรรม ทั้งกรรมในภพ นี้ และ ภพ ที่ผ่านมา

กรรม คือ การกระทำ ที่เกิดจากเจตนา

ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เกิดจาก กรรม ที่ทำโดยตัวทั้งนั้น

ปลง ง ง


2552/02/26

The Sun Will Always Rise

Hey don't cry, the night is almost through
And I'll be here to hold and comfort you
Sometimes you'll look out on dark and stormy skies

But darling remember the sun will always rise
And bring the light, and bring the light

Life will take you through many endless nights
And you may struggle with pain and loss sometimes
But as long as you are humble
And you stay true inside
Come what may the sun will always rise
And bring the light, and bring the light

Mountains will make it harder
Dark clouds will make you doubt
But you'll get through
And when I can't be with you
This ray of hope I give to you

So hey don't cry, the night is almost through
And I'll be here to hold and comfort you
Though sometimes you'll look out on dark and stormy skies
darling remember, the sun will always rise
And bring the light, and bring the light



และพระอาทิตย์ก็ขึ้นอีกครั้ง
ไม่ว่าจะร้อนหนาวแค่ไหน
พระอาทิตย์ก็ยังคงทำหน้าที่อยู่เช่นเดิม
ใครจะไปรู้
บางวัน พระอาทิตย์อาจตื่นสาย
บางวัน พระอาทิตย์อาจขี้เกียจ
บางหวัด พระอาทิตย์อาจเป็นหวัด
บางวันพระอาทิตย์อาจปวดหัว
บางวันพระอาทิตย์อาจ อกหัก

แต่

พระอาทิตย์ก็ยังคงต้องขึ้นของมันทุกวัน
ทำหน้าที่กันไป

ช่วงนี้ฟ้าที่เซี่ยงไฮ้ คงมีเรื่องเศร้ามาก
พระอาทิตย์ก็คงเหนื่อยและล้ากับภาระหลายอย่าง

ก็คงไม่ต่างกับสภาวะในใจเราตอนนี้ซักเท่าไหร่
แต่
ก็นั่นแหละ

เราก็ยังคงต้องลืมตาตื่นขึ้นมาทุกวัน
แม้จะเหนื่อยล้า แต่ก็ต้องลุำกขึ้นมาดำ้้เนินชีวิตกันต่อไป

จนกว่า ฟ้่า จะ สดใส

คิดถึงแดดมากมาย

ฟ้าที่เซี่ยงไฮ้จ้า หายไวไวนะ

2552/02/25

อีกแล้ว

อีกครั้ง

ที่ความพยายามอยู่ที่ไหน แต่ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่นั่น

.
.
.
เหนื่อยจนต้องมั่วร้องไห้ไปกับสายฝน




ใครมันจะไปเข้มแข็งได้ทุกวัน

และสุดท้าย เรามันก็แค่คนธรรมดา
ที่อ่อนแอ


2552/02/22

อีกครังกัีบการบอกลา

การจากลา เป็นเรื่องเศร้าเสมอ ... ไม่ว่าเวลานั้น จะสั้น หรือ ยาว ก็ตาม

อาจจะอุ่นใจขึ้นมาอีกนิด ที่อย่างน้อย อีกไม่นานเราก็จะได้พบกันอีก

แต่ ระยะเวลาของการ รอคอย มันมักจะทำให้รู้สึกยาวนาน จนเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดเสมอ

เพราะแต่ละชีวิต ต่างมีเส้นทางเดินของตัวเอง เมื่อถึงเวลาก็จำต้องแยกย้าย

คิดถึงเพื่อน แต่ เราก็รู้ว่า เรายังคงเฝ้ามองกันอยู่เสมอ แม้ในวันที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆกัน

จนกว่าจะถึงวันที่กลับมาำำพบกันใหม่

เทคแคร์ นะ น้ำฝน


---------------------------

การอยู่ีที่นี่ กับ อยู่ที่ไทย มันเหมือนเราใช้ชีวิตอีกมุมนึง

เวลาที่เราจากเซี่ยงไฮ้ นาฬิกาชีวิตที่นี่ก็จะหยุดลง

และ

เวลาที่้เรากลับเมืองไทย นาฬิกาชีวิตที่เ้มืองไทยก็จะเริ่มเดินอีกครั้ง

หลายปีที่ชีิวิต สลับหมุนเวียนเปลี่ยนนาฬิกาชีิวิตแบบนี้

เหลืออีกปี กับนาฬิกา ชีวิต ในเซี่ยงไฮ้

พอหันกลับไปมอง แปปเดียวจริงๆ

อายุ เปลี่ยนจาก เลข 1 เป็น เลข 2 ก็ที่นี่ เหลือ อีก ปีกว่าๆ แล้ว นึกมาแล้วก็ใจหายเนอะ

ฝนฟ้า มืดมัว ชวนให้ หัวใจมันเหงาๆ บอกไม่ถูก

...

แดดสีเทา คิดถึงฟ้าขาว ขาว มากมาย


2552/02/20

ตัดผม

ไปตัดผมมาละ

หน้าเด็กเชียว

ฮ่าๆๆๆ

ทรงผมกระชากวัยมาก

สั้นซะ ... นึกว่าอกหัก กันเลยทีเดียว เอิ้ก

อกหักน่ะเรื่องเล็ก แต่อกเล็กซิเรื่องใหญ่ !!!

ฮ่าๆๆ

แล้วทำไม ผมสั้นต้ิองอกหัก
ผมสั้น มีความรักไม่ได้เหรอ โหะๆ

ถึงผมจะสั้น แต่รักฉันยาว ว.....ววว

อ้าว ว ฮ่าๆๆๆ

เมื่อไหร่ จะนอนหัวค่ำ แล้วตื่นเช้าได้ว่ะเรา

หรือ ควรจะล้มเลิกความตั้งใจนี้เสีย

เหอเหอ

แต่ดูไปดูมาก็หน้าเหมือนโน้ตอุดม นะ

ฮ๋าๆๆ


เหมือนเนาะ เอิ้กกก

2552/02/19

ว่าง? เหงา? เศร้า? ซะงั้น

เทอม เปิดแล้ว

แต่

เรายังไม่ได้เปิดเทอม

เอิ้ก สามารถ เปิด และปิดเองได้ สำหรับการเรียนเนี้ย

อ่านหนังสือ ธรรมะ เขาบอกว่า ถ้าปล่อยให้ตัวเองว่างมากมาก แล้ว มันจะทำให้เรารู้สึกเหงา และ เหงามากไป มันก็จะทำให้เรารู้สึกเศร้า อาจจะจริงเนอะ

เราว่างไปรึเปล่าวะ แต่ก็แลดูว่าจะไม่ หรือ มันควรจะทำตัวให้ยุ่งมากกว่านี้ เหอ ชีวิตช่วงนี้มันดูกลวงๆๆ เทียมกับ เทอมที่แล้วนิ คนละอย่างเลย แต่ว่างๆ แบบนี้มันก็ทำให้นึกถึงงาน และความตั้งใจที่ค้างคามานานนาน คงต้องรื้อออกมาทำให้มันเสร็จซะที

ช่วงนี้อากาศเซี่ยงไฮ้ มัว มาก ฝนฟ้าตกโปรบปราบ อากาศก็หนาวซะเหลือหลาย ไม่น่าขยับตัวทำอะไรเล้ยๆจริงๆ

ขี้เกียจเนอะ

2552/02/16

จีนที่ไม่จีน

วันเปิดเรียนวันแรก คาบแรก ทำให้รู้สึกว่า ถ้าอยากจะเรียนอะไรเกี่ยวกับเมืองจีน ให้ไปเรียนที่อื่น เพราะที่นี่เขาไ่ม่สอนอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเอง สอนแต่เรื่องของฝรั่ง !!!

ธรรมดา แหละ ที่เมืองจีนตอนนี้กำลัง เห่อ ฝรั่ง ขนาดว่าอาจารย์คนจีน พูดภาษาอังกฤษ สอนหนังสืออังกฤษ เรียนเรื่องเกี่ยวกับสังคมฝรั่ง แม้แต่ คนจีนด้วยกันเอง จะถามอาจารย์ยังต้องพูดภาษาอังกฤษในห้อง เหย ตูก็ไม่ได้เลือกเรียนคลาสภาษานะ แต่ว่า เขาไม่รู้สึกแปลกๆ บ้างเหรอ

เข้าใจว่าอยากจะพยายามทำมหาลัยให้เป็น อินเตอร์ แต่เราว่า แค่ใช้ภาษาอังกฤษสอน ทำพาวเวอร์พอยท์เป็นภาษาอังกฤษเนี้ย มันไม่ใช่ประเด็นมั้ง น่าจะพัฒนามารตฐาน และวิธีการสอนให้มันอินเตอร์คงจะดีกว่ามาก โดยเฉพาะ วิธีการสอบเนี้ย โบราณมาก ก ก ถ้าอยากจะเป็นมหาลัยแนวหน้าตัวจริงที่ไม่อิงแค่ชื่อเสียงของความเก่าแก่ของมหาลัยละก็ ฟูตั่น ยังต้องทำอะไรอีกเยอะเลย

เฮ้อ บ่นอีกแล้วเรา แต่จริงนะ มันอาจจะเป็นธรรมดาของเอเชียก็ได้มั้ง ที่พยายามไล่ตามฝรั่ง จนบางทีก็ลืมมองดูตัวเอง สิ่งที่เราจะเรียนรู้ได้จากคลาสนี้ คงจะเป็น การเฝ้ามองดู ระดับความ คลั่งฝรั่ง ของคนจีนละมั้ง แต่ก็ไม่แน่หรอก อาจจะมีอะไรดีดีซ่อนอยู่ก็ได้มั้ง หือหือ หวังว่านะ

.. วันนี้ เป็นครั้งแรกที่ฝรั่งบอกว่า เราพูดภาษาอังกฤษ สำเนียง สิงคโปร์ โหะ ๆ ครั้งแรกที่เคยได้ยิน ตลกว่ะ ได้ข่าวว่าไปอยู๋มาแค่ 10 กว่าวัน นี่เราสามารถแปลงสำเนียงได้ด้วยเหรอ ฮาจริง มันหลอกด่ารึเปล่าวะ


ฝนตกอีกแล้ว
ไม่เหงา แต่หงุดหงิด
พยายามรู้เท่าทันอารมณ์อยู่

สงบ สติ

2552/02/13

This time is now ~ LOVE

This time is now
If you are ever going to love me
Love me now, while I can know
The sweet and tender feelings
Which from true affection flow.

Love me now
While I am living,
Do not wait until I'm gone
And then have it chiselled in marble
Sweet words on ice-cold stone.

If you have tender thoughts of me,
Please tell me now.
If you wait until I am sleeping,
Never to awaken,
There will be death between us
And I won't hear you then.

So, if you love me, even a little bit,
Let me know it while I am living
So I can treasure it.


ทำเสียเดี๋ยวนี้
ถ้าหากว่าเธอจะรักฉันแล้ว
ก็รักเสียเดี๋ยวนี้ ในขณะที่ฉันยังรับรู้ได้
ถึงความรู้สึกที่อ่อนหวาน ละมุนละไม
ที่มาจากรักแท้

รักฉัน
ในขณะที่ฉันยังมีชีวิตอยู่
อย่ารอจนฉันจากไปแล้ว
แล้วจึงค่อยจารึกคำหวานลงในแผ่นหินอ่อน
แผ่นหินที่เย็นดุจน้ำแข็ง

ถ้าหากว่าเห็นความดีของฉัน
ขอได้โปรดบอกฉันเสียเดี๋ยวนี้
อย่ารอจนกระทั่งฉันหลับ
อย่างไม่มีวันตื่น
กาลข้างหน้า ความตายจะขวางกั้นระหว่างเรา

แล้วฉันก็จะไม่ได้ยินคำพูดของเธอแล้ว
ถ้าหากว่ารักฉัน แม้สักนิด
บอกให้ฉันรู้ขณะที่ฉันยังมีชีวิตอยู่
ให้ฉันได้รู้และแน่ใจในรักนั้น
-- แปลโดย คนเดิม



วันแห่งความรัก สำหรับคนมีรัก
.
.
.
อีกวาเลนไทน์ ที่ฉันไม่ได้รู้สึกเหงา
ขอบคุณวันดีดี ที่ทำให้ได้เห็นมนุษย์ฺโลกรักกัน



2552/02/12

back to Shanghai(Again !!)

กลับมาแล้ว

การเดินทาง เพิ่มเรื่องราวให้กับสมุดบันทึกมากมายหลายหน้ากระดา๋ษ

อีกครั้งที่ต้อง บันทึกลงในสมุดกับประโยคเดิมๆ ทุกครั้งที่เดินทางกลับ

" หากคุณรักการเดินทาง คุณก็ต้องเข้มแข็งกับการจากลา"

เจอมาบ่อยแค่ไหน แต่ทุกครั้งก็ไม่เคย เข้มแข็งได้เลย

มันคงเป็นธรรมดาของชีิวตมั้ง ทุกคนต่างมีนาฬิกาชีวิตของตัวเอง

เราอาจจะได้ใช้เวลาร่วมกันบ้าง ได้มองนาฬิกาตัวเดียวกันในช่วงนึงของชีวิต

แต่ ณ เวลา หนึ่ง ทุกคนต่างต้องกลับออกไปใช้นาฬิกา และดำเนินชีวิตของตัวเอง

มันเศร้าเนอะ เวลาที่ต้องจากคนที่รักมา แต่นั่นแหละ ความทรงจำดีดีต่อกัน มันจะช่วยเป็นพลังในการก้าวเดินต่อไป

การเดินทางครั้งนี้ คงต้อง บันทึกเพิ่มอีกประโยคว่า

"ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเข้มแข็งกับการจากลาได้ แต่การจากลา จะทำให้เราเข้มแข็งในการดำเนินชีิวิตต่อไปได้"

รู้สึกแปลก ๆ ที่ภายในวันเดียว ได้นั่งมองพระจันทร์สองดวง จากคนละมุมของโลก ต่างกันแค่เวลา จริงๆ มันก็เป็นดวงเดียวกันแหละ แต่ทำไมรู้สึกว่ามันต่างกันหนอ เอะ หรือว่ามันจะคนละดวง !! ใครมันจะไปรู้เนอะ ...

จนกว่าจะพบกันใหม่


ดรีม

2552/02/09

KL~Malaysia

wahaha~~~~

ชีวิตคือการเดินทางจริงๆ
หลังจากนอนอืดที่สิงคโปร์เป็นสิบวัน ก็ถึงเวลาที่ได้ย้ายตูดไปเดินเที่ยว กัวลาลัมเปอร์กันแล้ว

ตื่่นตั้งแต่เช้าตรู ไปสนามบิน เครื่องออกหกโมงครึ่ง โอย ไปถึงตั้งแต่ตีห้้าแล้ว เชคอินสบายแฮ....

เรากับพี่ก็ เดินชอปชิลล หลงไปในดง น้ำหอม แป้ง ครีม จนเกือบลืมเวลา มองนาฬิกาอ้าว หกโมงกว่าแล้ว รีบไปดีกว่า

ปรากฏ เดินไปผิดฝั่ง เวร !!!! วิ่งตับแรบครับพี่น้อง มาถึงครึ่งทา่ง โอ้ ประกาสเรียกชื่อ สองมิส ไสยรส แล้ว ว อ้าากกก กก

มาถึงเกท แบบเส้นยาแดงผ่าแปด กระโดดขึ้นเครืองแทบไม่ทัน

ฮ่าๆๆ เกือบไปแล้วมั้ยละ เอิ้ก กก

เคแอล เป็นเมืองที่ ไม่สามารถนิยามภาพรวมได้เลย เพราะว่า หลากหลายมาก ทั้งคน เชื้อชาติ ภาษา อย่างฮา ขึ้นแทกซี่ พี่แกไม่กดมิเตอร์ ต่อราคากันอย่างตุ้กตุ้ก ฮาดี

วันแรกเดินวนวนในเมือง มึนๆๆดี



From MAlaysia-Kl


From MAlaysia-Kl


เชิ่ดได้อีก ฮ่าๆๆ

From MAlaysia-Kl


เข้าไปเดินดูมัสยิดจาเมด เขาต้องให้คลุมผม และคลุมตัวให้เรียบร้อยด้วย

From MAlaysia-Kl


From MAlaysia-Kl


From MAlaysia-Kl

ชอบรูปนี้ที่สุด


และนี่คือ อินดีเพนเดสสแคว์

From MAlaysia-Kl


From MAlaysia-Kl


From MAlaysia-Kl


From MAlaysia-Kl


ท่านประธานเหมาในห้าง พาวิเลียน

From MAlaysia-Kl


From MAlaysia-Kl


บ้าย บาย เคแอล