"ถ้าฅนเรามีความคิดน่าเกลียด มันก็จะแสดงออกมาทางใบหน้า และเมื่อฅนเราคิดไม่ดีทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกปี หน้าตาก็จะยิ่งน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งสุดแสนน่าเกลียด ถึงขนาดที่คุณแทบจะทนดูไม่ได้ทีเดียว"
ฅนซื่อบื้อ : Roald Dahl
แปลจากภาษาอังกฤษ โดย สาลินี คำฉันท์
แปลจากภาษาอังกฤษ โดย สาลินี คำฉันท์
สังคม บรรจุไปด้วย คนมากมาย เมื่อมีหลายคนก็หมายความว่าเราอยู่ร่วมกันด้วยการมีความสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะทั้งในหน้าที่ หรือ ไม่ใช่หน้าที่ก็ตาม และยิ่งโลกของเราเจริญมากขึ้นเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของคนก็จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น แล้วยิ่งมันมีตัวแปรทางด้าน วัตถุ ราคา มาทดแทนคุณค่า ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์มันซับซ้อย ชวนให้สับสนเข้าไปอีก ยิ่งโตขึ้น ยิ่งทำให้ยิ่งนึกถึงเวลาที่เป็นเด็ก
" ผู้ใหญ่ มักอยากจะกลับไปเป็นเด็ก " คงเพราะว่า อยากหลบหนีจากความวุ่นวายของชีวิต
" เด็ก อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่" คงเพราะอยากจะทำอะไรได้หลายๆ อยากอย่างที่เห็นคนตัวโตๆ เขาทำกัน
ความฝันในวัยเด็กของเรา จำไม่ได้แล้ว คิดไว้หลายอย่าง สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ก็คงไม่รู้ตัวเท่าไหร่หรอก แต่รู้สึกจะจำได้ว่า ตอนอยู่ ป 1 ได้ " มาร์คจุดเวลาเอาไว้ในความทรงจำ" ฮ่าๆ เคยนึกเล่นๆ ตอนที่เด็กๆ เราอยากรู้ว่า อนาคตเราจะเป็นยังไง อยากหลับตาแล้ว ลืมขึ้นมาเห็นตัวเองในอีก 10 ปี ข้างหน้า อยากจะบอกว่า " เราทำได้นะ " จำได้ชัดว่า ยืนอยู่หน้าบ้าน กำลังยืนดููุุดขวดยาคูลอยู่ แล้วก็ ตัง้ใจว่าอยากรู้ว่า อนาคตของเราจะเป็นยังไง ก็หลับตาตั้งใจว่าจะจดจำ ณ เวลานี้ ตรงจุดนี้ ไว้ตลอดชีวิต แล้วพอลืมตา ก็จะได้เห็นอนาคตของเรา จนถึงทุกวันนี้ สิบกว่าปีแล้ว ยังจำแม่นอยู่เลย พอเวลาผ่านไป นึกถึงวันนั้นขึ้นมา ก็เหมือนกับว่า เราเห็นอนาคตของตัวเองแล้วไง เพียงแต่เวลาของโลกภายนอกมันเปลี่ยนไปแล้ว แ่ต่เวลาในตัวของเรา ในชีวิตของทุกคน มันสามารถย้อนกลับเองได้นะ นี่ละคือการมองเห็นอนาคตในตัวเราเอง ฮ่าๆๆ แต่ ที่เคยอ่านหนังสือธรรมมะ เขาว่าเวลามันซับซ้อนมาก และจริงๆ แล้วพระพุืืทธองคก็หลุดจาก เวลา ไปแล้ว แต่ว่า ปัญนี้ คิดโดยใช่ตรรกะ ไม่ได้ ต้องใช้ จิต พิสูจน์เิอง เขาเรียกว่าเป็น 1 ใน 4 อย่างที่ไม่ควรคิดให้เสียเวลา ทีเหลือ อีก 3 จำไม่ได้ ฮ่าๆ
พักนี้รู้ึสึกว่า ทำไมคนเรามักจะระแวงกับความสัมพันธ์รอบตัวนะ มันอาจจะเกิดจากแรงกดภายนอกที่บีบให้แต่ละคนต้องสร้างกรอบ สร้างสเปซ ขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากความสัมพันธ์ มันก็ไม่ผิดนะ เพราะทุกคนมีสิทธฺ จะปกป้องตัวเองใช่มั้ย แต่สงสัยว่าแล้วตลอดชีวิต จะอยู่กับสเปซที่ตัวเองสร้างขึ้นอย่างนั้น มันจะไหวเหรอ เราว่ามันจะยิ่งทำให้ยิ่ง อ่อนแอ รึเปล่า เหมือนวัคซีนนะ อย่้างแข็งแรง ต้านโรคได้ ก็ยิ่้งต้อง ฉีด เชื้อโรคเข้าไป แล้วร่างกายมันก็จะได้ สร้างภูมิคุ้มกันได้ไง อย่างเช่น
ถ้ากลัวเหงา ก็ต้อง หัด อยู่คนเดียว
ถ้ากลัวจะไม่มีคนรัก ก็ต้องรักคนอื่นๆมากๆ
ถ้ากลัวความรัก ก็ ต้องหัด อกหักบ่อยๆ
ฮ่าๆ ๆ แต่อย่างว่าแหละ คน มันจะ เข้มแข็งได้เท่าไหร่เชียว อยากมีแว่นตาวิเศษเนอะ ใช้มองคนจริงใจไม่จริงใจ มองผ่านแว่นรู้ปุป คนนี้เป็นไง มาร้ายมาดี จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวคบกันให้เสียเวลา อยากให้ชีวิตเจอแต่คนดีดี ต้องทำยังไงหนอ เหย ย ย
ชีิวิตมีเรืองราวเยอะแยะมากมายจังเลย เริ่มจะเข้าใจแล้วละ ที่พระท่านว่า คนเราเกิดมาใช้กรรม ทั้งกรรมในภพ นี้ และ ภพ ที่ผ่านมา
กรรม คือ การกระทำ ที่เกิดจากเจตนา
ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เกิดจาก กรรม ที่ทำโดยตัวทั้งนั้น
ปลง ง ง
" ผู้ใหญ่ มักอยากจะกลับไปเป็นเด็ก " คงเพราะว่า อยากหลบหนีจากความวุ่นวายของชีวิต
" เด็ก อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่" คงเพราะอยากจะทำอะไรได้หลายๆ อยากอย่างที่เห็นคนตัวโตๆ เขาทำกัน
ความฝันในวัยเด็กของเรา จำไม่ได้แล้ว คิดไว้หลายอย่าง สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ก็คงไม่รู้ตัวเท่าไหร่หรอก แต่รู้สึกจะจำได้ว่า ตอนอยู่ ป 1 ได้ " มาร์คจุดเวลาเอาไว้ในความทรงจำ" ฮ่าๆ เคยนึกเล่นๆ ตอนที่เด็กๆ เราอยากรู้ว่า อนาคตเราจะเป็นยังไง อยากหลับตาแล้ว ลืมขึ้นมาเห็นตัวเองในอีก 10 ปี ข้างหน้า อยากจะบอกว่า " เราทำได้นะ " จำได้ชัดว่า ยืนอยู่หน้าบ้าน กำลังยืนดููุุดขวดยาคูลอยู่ แล้วก็ ตัง้ใจว่าอยากรู้ว่า อนาคตของเราจะเป็นยังไง ก็หลับตาตั้งใจว่าจะจดจำ ณ เวลานี้ ตรงจุดนี้ ไว้ตลอดชีวิต แล้วพอลืมตา ก็จะได้เห็นอนาคตของเรา จนถึงทุกวันนี้ สิบกว่าปีแล้ว ยังจำแม่นอยู่เลย พอเวลาผ่านไป นึกถึงวันนั้นขึ้นมา ก็เหมือนกับว่า เราเห็นอนาคตของตัวเองแล้วไง เพียงแต่เวลาของโลกภายนอกมันเปลี่ยนไปแล้ว แ่ต่เวลาในตัวของเรา ในชีวิตของทุกคน มันสามารถย้อนกลับเองได้นะ นี่ละคือการมองเห็นอนาคตในตัวเราเอง ฮ่าๆๆ แต่ ที่เคยอ่านหนังสือธรรมมะ เขาว่าเวลามันซับซ้อนมาก และจริงๆ แล้วพระพุืืทธองคก็หลุดจาก เวลา ไปแล้ว แต่ว่า ปัญนี้ คิดโดยใช่ตรรกะ ไม่ได้ ต้องใช้ จิต พิสูจน์เิอง เขาเรียกว่าเป็น 1 ใน 4 อย่างที่ไม่ควรคิดให้เสียเวลา ทีเหลือ อีก 3 จำไม่ได้ ฮ่าๆ
พักนี้รู้ึสึกว่า ทำไมคนเรามักจะระแวงกับความสัมพันธ์รอบตัวนะ มันอาจจะเกิดจากแรงกดภายนอกที่บีบให้แต่ละคนต้องสร้างกรอบ สร้างสเปซ ขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากความสัมพันธ์ มันก็ไม่ผิดนะ เพราะทุกคนมีสิทธฺ จะปกป้องตัวเองใช่มั้ย แต่สงสัยว่าแล้วตลอดชีวิต จะอยู่กับสเปซที่ตัวเองสร้างขึ้นอย่างนั้น มันจะไหวเหรอ เราว่ามันจะยิ่งทำให้ยิ่ง อ่อนแอ รึเปล่า เหมือนวัคซีนนะ อย่้างแข็งแรง ต้านโรคได้ ก็ยิ่้งต้อง ฉีด เชื้อโรคเข้าไป แล้วร่างกายมันก็จะได้ สร้างภูมิคุ้มกันได้ไง อย่างเช่น
ถ้ากลัวเหงา ก็ต้อง หัด อยู่คนเดียว
ถ้ากลัวจะไม่มีคนรัก ก็ต้องรักคนอื่นๆมากๆ
ถ้ากลัวความรัก ก็ ต้องหัด อกหักบ่อยๆ
ฮ่าๆ ๆ แต่อย่างว่าแหละ คน มันจะ เข้มแข็งได้เท่าไหร่เชียว อยากมีแว่นตาวิเศษเนอะ ใช้มองคนจริงใจไม่จริงใจ มองผ่านแว่นรู้ปุป คนนี้เป็นไง มาร้ายมาดี จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวคบกันให้เสียเวลา อยากให้ชีวิตเจอแต่คนดีดี ต้องทำยังไงหนอ เหย ย ย
ชีิวิตมีเรืองราวเยอะแยะมากมายจังเลย เริ่มจะเข้าใจแล้วละ ที่พระท่านว่า คนเราเกิดมาใช้กรรม ทั้งกรรมในภพ นี้ และ ภพ ที่ผ่านมา
กรรม คือ การกระทำ ที่เกิดจากเจตนา
ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เกิดจาก กรรม ที่ทำโดยตัวทั้งนั้น
ปลง ง ง